หนังสือเรื่อง : หน้าต่างบานเเรก
ผู้แต่ง : กฤษณา อโศกสิน
ประเภท : นวนิยายสะท้องสังคม
หน้าต่างบานแรกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ''ฉายา'' หรือ ''ฉาย'' เขาเกิดในครอบครัวที่อบอุ่น ตระการและโฉมซึ่งเป็นพ่อและแม่ของฉายทำงานเป็นข้าราชการ
ฉายเป็นคนที่เรียนไม่เก่งมาก แต่เขาเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยเกเร
มีเล่นและเที่ยวเตร่กับเพื่อนฟูงบาง วันหนึ่งเขาได้พบกับหนึ่ง
หญิงสาวที่ทำให้ชีวีตของฉายเปลี่ยนไปด้วยความสงสารหนึ่ง
และความใจอ่อนเขาฉายทำให้หนึ่งทำให้ฉายหลงรัก และมีอะไรกันจนทำให้หนึ่งท้อง หนึ่งเป็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน
เธอถูกปลูกฝังมาในทางที่ผิด แม่ของหนึ่งไม่สนใจในพฤติกรรมของหนึ่งเลย
เมื่อรู้ว่าหนึ่งท้องแม่หนึ่งก็ไล่หนึ่งออกจากบ้าน จนทำให้ต้องมาอยู่บ้านฉาย พ่อแม่ของฉายาไม่เต็มใจยอมรับหนึ่ง
แต่ไม่กล้าไล่หนี เพราะกลัวลูกชายของตนจะหนีตามไปด้วย
หนึ่งเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่สนใจตัดหางปล่อยวัด กิริยามารยาทไม่ดี
พูดน้ำเสียงแข็งกระด้าง เมื่อหนึ่งเขามาอาศัยอยู่ในบ้าน ก็ไม่ช่วยทำงานบ้าน
และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายขึ้นกว่าเดิม เขาทำเธอท้องและพามาอยู่ด้วยที่บ้านเพราะต้องรับผิดชอบ
ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้พ่อและแม่ของฉายเสียใจมากที่เห็นลูกชายคนเดียวทำตัวเหลวไหล
เมื่อหนึ่งเข้ามาอยู่บ้านใหม่ๆทั้งสองรักกันมาก ชอบคุยคิกคักกันสองคน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งท้องโตขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยความที่เธอเป็นวัยรุ่นทำให้เธอไม่ค่อยมีความอดทน ชอบเหวี่ยงใส่คนรอบตัว
ไม่มีความเคารพพ่อแม่ของฉาย ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่มีระเบียบวินัย และทะเลาะกับฉายบ่อยขึ้น
ซึ่งทำให้พ่อแม่ของฉายกลุ้มใจรวมถึงตัวฉายด้วย
หนึ่งทำตัวไม่ดีกับคนในบ้านและใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปซื้อของไม่จ่ายเงิน
ทำให้เดือดร้อนถึงแม่ฉายเพราะต้องไปจ่ายเงินตามหลังทุกครั้ง
หนึ่งไม่ค่อยอยู่ติดบ้านถึงแม้ตัวเองจะท้องอยู่แท้ๆ ไม่ดูแลสุขภาพไม่นึกถึงลูกในท้องของตัวเอง เมื่อคลอดลูกแล้ว
พ่อแม่ฉายตั้งชื่อเด็กว่า ''ฉม'' ชื่อเติมคือ ''ฉมนรี'' ทำให้บ้านหลังนี้ดูสดชื่นขึ้นจากเดิมที่กลุ่มใจเรื่องหนึ่ง
พ่อและแม่ของฉายเห่อหลานมาก ฉายเองก็ดีใจ และตัวเขาก็รู้สึกได้ถึงการเป็นพ่อ แต่หนึ่งเฉยๆไม่ได้อะไรมาก ได้แต่แต่งตัวสวยๆออกไปเที่ยวข้างนอก
เธอไม่ได้สนใจลูกของเธอเลยเริ่มหมดรักฉาย ทะเลาะกันมากขึ้น
หนึ่งขอออกไปทำงานแต่ฉายไม่อยากให้ไปทำงานเพราะต้องให้นมลูกแต่ก็ห้ามหนึ่งไม่ได้
เธอออกไปหางานทำจนได้งานที่โรงแรม พ่อแม่และฉายกลุ้มใจมาก
เรื่องที่หนึ่งออกไปหางานทำ เธอกลับดึกและไม่ได้ให้นมลูกกิน
จนทำให้แม่ของฉายถึงขั้นจ้างหนึ่งให้อยู่บ้านให้นมลูกกินเพราะความสงสารหลานตัวเล็กๆ
ฉายเองก็พยายามศึกษาการเลี้ยงดูลูก และเขาก็เลี้ยงดูเป็นอย่างดีเอาใจใส่ทุกอยาง่
เลิกเรียนก็รีบกลับบ้าน ส่วนหนึ่งก็ออกหางานได้เป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรมเล็ก ๆ โดยไม่สนใจใคร
พอมีผู้ชายมาติดพันหนึ่งก็เริ่มกลับบ้านผิดเวลา วันหยุดก็ไม่เคยอยู่บ้าน ฉายเตือนแต่หนึ่งก็ไม่ฟังหนักเข้าก็ทะเลาะกันเป็นประจํา
ฉายตามหนึ่งไปเห็นหนึ่งเข้าโรงแรมม่านรูดกับลูกชายเจ้าของโรงแรมที่หนึ่งทํางานอยู่ฉายารอจนทั้งคู่ออกมาแล้วยกหนึ่งให้ผู้ชายคนใหม่ไป
หี่งกลับมาเก็บของที่บ้านอย่างไม่สะทกสะท้านหรืออาลัยใยดีแม้แต่ลูก ฉายเองกลับเป็นฝ่ายที่เสียใจมาก
ฉายเริ่มตระหนักในความผิดพลาดของเขาเอง โฉมก็ได้แต่เตือนว่าหน้าต่างบานแรกของเด็กๆ
พอเปิดไปเจออะไรก็ซาบซึ้งก็คิดว่านั้นแหละคือโลกทั้งหมด ซักพักก็จะปิดบานแรกไปเปิดบานที่
2 บานที่ 3 ตอนนี้ฉายากําลังเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างบานแรกของเขา
มันอาจไม่คอยเข้าเพราะฝืด อาจเป็นได้ว่าไม้ที่ทําหน้าต่างยังสดเกินไป
พอผ่านฝนผ่านหนาวอีกสักพักก็คงจะดีขึ้น ทำให้ฉายได้รับบทเรียนราคาแพง
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมของแต่ละครอบครัวในการอบรบและดูแลลูก
สะท้อนปัญหาเรื่องของวัยรุ่นที่มีครอบครัวแล้วแม้ตัวเองยังไม่พร้อมทำให้ครอบครัวเกิดปัญหา
ตัวละคร
ตระการ : เป็นพ่อของฉาย อาชีพข้าราชการ
เป็นคนลุ่มลึก มองโลกด้วยความเข้าใจ
โฉม : แม่ของฉาย อาชีพข้าราชการ
เป็นคนค่อนข้างใจร้อน แต่ยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติ
ฉาย : เป็นหนุ่มนักศึกษามีความอยากรู้อยากลอง ขี้สงสาร เชื่อคนง่าย
หนึ่ง : เป็นเด็กหญิงอายุ16
หน้าตาดี ชอบเที่ยวเตร่ มีความขี้เกียจและเอาแต่ใจสูง กิริยามารยาทไม่ดี พูดน้ำเสียงแข็งกระด้าง
ความคิดเห็นของผู้เขียน
สะท้อนถึงสังคมที่มีในปัจจุบัน
ซึ่งหลายคนอาจมองเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
แต่ผู้เขียนเขียนเพื่อที่จะเป็นคติสอนใจผู้อ่านในการเปิดหน้าต่างบานแรกว่าควรที่จะคิดให้รอบคอบก่อนทำอะไรลงไปเพราะมิฉนั้นจะทำให้ตนเองเสียใจ
และยังรวมไปถึงคนรอบข้างด้วย
สิ่งทีประทับใจ
ประทับใจในคำพูดของตระการพ่อของฉายที่พูดว่า
"อย่าลืมว่าเราอายุห้าสิบนะแม่ ความคิดของเขากับเรามีช่องว่างมากแล้ว"
เป็นการบอกว่าพ่อแม่ต้องคิดว่าลูกคิดอะไรอยู่เอาใจเขามาใส่ใจเราแล้วเราอาจจะได้รู้ถึงความคิดเขา
ประทับใจพ่อแม่ฉายที่พยายามยอมรับและทำความเข้าใจลูกชายและลูกสะใภ้
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
ได้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
การดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว
ได้ข้อคิดเตือนใจมากมายเพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่อ่อนต่อโลก
การใช้อารมณ์ชั่ววูบแต่นาทีเดียวก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเราได้